เพื่อนโทรมาเล่าให้ฟังว่าทะเลาะกับเพื่อนอีกคนหนึ่งซึ่งคิดไปเองว่า เพื่อนเราไปว่าเค้าเป็นคนไม่ดี ซึ่งเพื่อนเราไม่ได้พูดเลยซักคำ แต่คนนั้นก็เถียงว่าถึงไม่ได้พูดก็คิด จากนั้นก็พร่างพรูเรื่องเก่าๆออกมาพูดทำนองทวงบุญคุณว่าเมื่อก่อนเค้าเคยช่วยอะไรเพื่อนเราไว้บ้าง เป็นเรื่องราวใหญ่โต ไม่ว่าจะพูดอะไร เค้าก็ตีความหมายไปในทางลบไปหมด เราฟังแล้วก็ไม่พอใจ เพราะเพื่อนเราไม่ได้ว่าอะไรเค้าสักนิดแค่ค้านในเรื่องเล็กน้อยตอนปรึกษางานกันเท่านั้นเอง และเรารู้สึกไม่ชอบที่เค้าเอาเรื่องการช่วยเหลือกันของเพื่อนมาทวงบุญคุณ
เรามาสะดุดตรงที่ทำไมเค้าถึงคิดว่ามีคนว่าเค้าไม่ดี ทั้งๆที่เพื่อนเราไม่เคยว่าไม่เคยพูดจาทำนองนั้นเลย จะระวังคำพูดกับเพื่อนคนนี้มากเพราะรู้ว่าไม่สบายเป็นโรคซึมเศร้าและด้วยอาการของโรคจะทำให้คิดมากอยู่แล้ว แต่ลึกๆแล้วต้องยอมรับว่าเรากับเพื่อนก็รู้สึกไม่ดีกับคนนี้จริงๆ ในแง่ที่ว่า เค้าไม่พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อให้หายจากโรคที่เป็นอยู่ ไม่อดทน ไม่ฟังใคร ไม่ทำตัวเป็นที่พึ่งของครอบครัว และชอบโทษคนอื่น เราเลยเกิดความสงสัยว่าทำไมเค้าถึงพูดอย่างนั้นและเป็นไปได้ไม๊ที่เค้าจะรับรู้ความรู้สึกของเรากับเพื่อนคนอื่นๆได้
นึกถึงเมื่อตอนที่เรามีปัญหากับลูก เรารู้สึกว่าลูกก้าวร้าว ไม่น่ารัก ทำตัวมีปัญหา ไม่ทำตัวดีๆเหมือนเด็กคนอื่น ไม่น่ารักเหมือนน้อง เมื่อมองย้อนไปแล้วตกใจมาก เรามองเห็นสีหน้า แววตา คำพูด น้ำเสียง ที่เราใช้กับลูกตอนนั้นชัดเจน ถึงเราก็จะไม่ต่อว่าลูกในสิ่งเหล่านี้ถ้าไม่ทะเลาะกัน แต่ด้วยความรู้สึกด้านลบที่เรามีทำให้สิ่งต่างๆที่เราแสดงออกมามันเห็นได้อย่างชัดเจนว่าเรารู้สึกกับลูกอย่างไร เรามองกลับไปยังรับรู้ได้ ตอนนั้นลูกก็คงรับรู้ได้เช่นกัน นึกถึงคำพูดต่างๆที่ลูกเคยพูดกับเรามักเป็นไปในทำนองตัดพ้อว่าเราเห็นว่าเค้าไม่ดี ไม่น่ารัก ดังนั้นก็เป็นไปได้ว่าสิ่งที่เราและเพื่อนแสดงต่อเพื่อนคนนี้ก็อาจจะสะท้อนความรู้สึกที่เรามีต่อเค้าออกมาโดยที่เราไม่รู้ตัว และเป็นไปได้ว่าเค้าสามารถรับรู้ความรู้สึกนี้ได้
แล้วคำพูดทวงบุญคุณเราเคยพูดหรือไม่ นึกดูดีๆ เราทวงบุญคุณลูกทุกครั้งที่ทะเลาะกัน ไล่ไปตั้งแต่เริ่มท้อง แพ้ท้องมากขนาดไหน ต้องผ่าท้องคลอด ยอมเสียสละไม่ทำงานมาดูแลลูก ทำให้ทุกอย่าง สารพัดที่เราจะพูดทวงบุญคุณ โดยเราจะพูดสิ่งเหล่านี้เมื่อรู้สึกว่าถูกละเลย ไม่เห็นความสำคัญ ลูกไม่ทำดีกับเราเท่าที่ควร ไม่นึกถึงความรู้สึกเรา เราได้ฟังจากที่เพื่อนเล่ามารอบเดียวเรายังไม่ชอบและบุญคุณทั้งหลายที่เค้าพูดมาก็เริ่มหมดค่า แต่เรากลับพูดกับลูกมาไม่รู้กี่ครั้ง แต่ละครั้งก็เรื่องเดิมๆ ทวงแล้วทวงอีก ช่างน่าเบื่อและทำให้คุณค่าของสิ่งที่เราทวงบุญคุณนั้นหายไป จำได้ว่าลูกมักจะเถียงว่า ไม่ได้ขอให้ทำให้สักหน่อย แม่ทำให้เอง ถึงตอนนี้เข้าใจแล้วว่าคนที่ต้องฟังคำพูดทวงบุญคุณจะรู้สึกอย่างไร และคนที่พูดพูดเพราะรู้สึกอย่างไร
เมื่อเริ่มเข้าใจ ความรู้สึกไม่พอใจที่เคยมีก็เริ่มหายไป เริ่มรู้สึกว่า ที่เค้าพูดก็จริงของเค้า เรารู้สึกไม่ดีกับเค้าจริงๆ นึกตำหนิเค้าบ่อยๆ เพราะคิดว่าตัวเองดีกว่าเค้าตลอด สิ่งที่เราแสดงออกบางครั้งอาจจะทำร้ายความรู้สึกของเค้า เช่นในไลน์กลุ่ม เค้าทักมาในกลุ่มเราก็ไม่ตอบ เค้าชวนคุยอะไรเราก็ไม่คุย ทำเหมือนไม่อยากยุ่งด้วย ตอนนี้เรารู้สึกผิดต่อเค้ามาก และคิดว่าสิ่งที่เราจะทำต่อไปคือ ทำความเข้าใจให้มากขึ้น จะพยายามน้อมในเรื่องที่เราคิดตำหนิเค้าให้บ่อยๆ เพราะ เมื่อเราได้เห็นว่าเราเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเค้าเราก็จะนึกตำหนิเค้าน้อยลง ซึ่งจะทำให้การแสดงออกของเราเปลี่ยนไป เราคงช่วยอะไรเกี่ยวกับอาการป่วยของเค้าไม่ได้ แต่เราช่วยเพิ่มจำนวนคนที่เข้าใจเค้า และลดจำนวนคนรอบๆตัวที่นึกตำหนิเค้าได้ อย่างน้อย 1 คน