รักที่เห็นแก่ตัว

ฟังเพลง Man in the Mirror ของ Michael Jackson ซึ่งเป็นเพลงที่ชอบมากและฟังมาตั้งแต่เด็ก โดยเมื่อก่อนจะชอบประโยคที่ว่า If you wanna make the world a better place, take a look at yourself and then make a change เพราะรู้สึกว่ามันใช่เลย ถ้าอยากให้โลกนี้ดีขึ้นต้องเริ่มเปลี่ยนที่ตัวเราก่อน แต่วันนี้กลับมาสะดุดตรงประโยคที่ว่า I’ve been a victim of a selfish kind of love เป็นเหยื่อของรักที่เห็นแก่ตัว ฟังแล้วก็เกิดความสงสัยว่าเป็นอย่างไร เค้าหมายความว่าอย่างไร แล้วเราหล่ะเป็นเหยื่อของความรักที่เห็นแก่ตัวบ้างรึเปล่า

มานึกดูว่ารักที่เห็นแก่ตัวเป็นอย่างไรกัน น่าจะเป็นรักเพื่อตัวเอง นึกถึงตัวเองก่อนที่จะนึกถึงคนอื่น นั่นคือเมื่อเรารักใครเราก็หวังว่าคนนั้นจะทำให้เรามีความสุข พอเรามีความสุขเราจึงอยากครอบครอง และอยากเก็บไว้นานๆ ไม่อยากสูญเสียไป รักเพื่อให้ตัวเองรู้สึกดี รักเพื่อให้ตัวเองมีคุณค่า รักเพื่อให้ได้รักตอบแทนกลับมา จริงด้วยสิ เป็นรักที่เห็นแก่ตัวจริงๆ เพราะทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น ไม่ได้ทำเพื่อคนที่รักสักนิด

ตั้งแต่เด็กรักของเราคือรักแม่ เป็นรักที่เต็มไปด้วยการเรียกร้องทุกสิ่งทุกอย่างจากแม่ ต้องการความรัก ความเอาใจใส่ ต้องการคำชม ต้องการให้แม่รักเราคนเดียว ต้องการของเล่น พอไม่ได้ดั่งใจก็น้อยใจทำตัวเกเร หาว่าแม่ไม่รักทำให้แม่ทุกข์ใจ พอโตขึ้นมาเริ่มมีความรักแบบหนุ่มสาว ก็เป็นรักที่เอาแต่ใจ เธอต้องมาเอาใจฉัน ต้องมีเวลาให้ ต้องทำให้พอใจ ต้องรักเราคนเดียว ห้ามมองคนอื่น ต้องเปลี่ยนตัวเองมาเป็นแบบที่เราอยากให้เป็น

เมื่อแต่งงานมีลูก ทั้งๆที่เป็นรักที่เราคิดว่าเราสามารถเสียสละทุกอย่างให้ลูกได้ ทำทุกอย่างให้ลูกได้ อยากให้ลูกเป็นเด็กดีมีความสุข แต่ลึกๆแล้วสิ่งที่แอบแฝงมากับความรักลูกคือ รักเพื่อให้คนอื่นเห็นว่าเราเป็นแม่ที่ดี สิ่งที่ทำให้ลูกก็คือสิ่งที่เราคิดว่าดี พยายามควบคุมให้ลูกเป็นแบบที่เราต้องการ ลูกต้องให้ความเคารพ ลูกต้องให้ความรักคืนมาเพราะเราคือคนที่รักลูกมากที่สุด แม้แต่การเลี้ยงแมว เราก็เลี้ยงดูอย่างดี และจะมีความสุขมากเมื่อมันแสดงให้เห็นว่ารักเรามากกว่าใคร นี่เรารักแมวก็เพื่อให้ได้ความรักที่มันจะให้เรามากกว่าให้คนอื่นกลับคืนมานั่นเอง

นี่แสดงว่าที่ผ่านมาเรามีความรักที่เห็นแก่ตัวมาเกือบทั้งชีวิต ทำเพื่อตัวเองมาตลอด แม้กระทั่งรักลูกเราก็ยังรักเพื่อตัวเอง ไม่มีความรักครั้งไหนเลยที่เราจะไม่หวังสิ่งตอบแทน ช่างตรงกับเนื้อเพลงที่ว่า I’ve been a victim of a selfish kind of love … It’s time that I realize และมันก็ถึงเวลาที่เราจะต้องรู้สึกตัวซะที ต้องขอบคุณเพลงนี้ที่ทำให้ได้รู้สึกตัว ก่อนหน้านี้จะเห็นเพียงแค่ในส่วนของการรักลูกที่เรามักจะแฝงการทำเพื่อตัวเองเพราะได้พิจารณาเรื่องนี้บ่อยครั้ง แต่เราไม่เคยพิจารณาในภาพรวมทั้งชีวิตที่ผ่านมาว่าความรักของเรามันเห็นแก่ตัวขนาดไหน วันนี้ก็ได้เห็นและได้รู้สึกตัวซะที

ต่อไปจะมองความรักของตัวเองใหม่ มองถึงสิ่งที่เราจะสามารถให้คนที่เรารักมากกว่าสิ่งที่เราจะได้ จะพยายามกำจัดความเห็นแก่ตัว กำจัดสิ่งแอบแฝงต่างๆที่มากับความรัก เพราะท้ายที่สุดแล้วถ้าเรารักโดยไม่หวังอะไรจากความรัก เราก็จะไม่ผิดหวังและไม่ทุกข์เพราะความรักแบบที่ผ่านๆมา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *