คำขอบคุณ

ไปซื้อของที่ห้างแห่งหนึ่ง ขณะที่เปิดประตูเข้าห้างก็เหลือบไปเห็นคนถือของมาเต็มสองมือกำลังจะเดินเข้าประตูมาเราจึงเปิดประตูค้างไว้ให้ คนนั้นไม่เพียงแต่ไม่กล่าวคำขอบคุณ กลับเดินผ่านไปโดยไม่แม้แต่จะมองหน้าเราด้วยซ้ำ เราไม่พอใจทันที นึกในใจว่าไม่มีมารยาทเลย ถึงจะไม่ขอบคุณก็มองหน้าหรือยิ้มให้สักนิดก็ยังดีเพราะเราไม่ใช่พนักงานเปิดประตู เราช่วยเปิดประตูไว้ให้นะ แต่เอ๊ะ! ถ้าเราอยากช่วยเหลือเค้าจริงๆ เราก็ไม่ควรจะรู้สึกไม่พอใจเพราะเราได้ช่วยเค้าแล้ว แต่นี่เราไม่พอใจแสดงว่าเราไม่ได้รับสิ่งที่เราต้องการตอบแทนกลับมา ซึ่งก็คือ การแสดงความชื่นชมจากคนนั้นด้วยการขอบคุณ…อีกแล้วหรือนี่

วันนั้นตวาดลูกคนโตเพราะลูกโวยวายว่าของที่อยากกินมันหมด เตือนดีๆแล้วก็ยังไม่หยุดโวยวายจนเราทนไม่ไหวตวาดออกไป หลังจากนั้นก็อารมณ์ไม่ดีทั้งวันไม่อยากพูดอยากจากับใคร มานั่งคิดดูว่าทำไมถึงได้หลุดตวาดออกไปทั้งๆที่ไม่ได้ตวาดลูกมานานแล้ว ตอนนั้นรู้สึกว่าลูกเป็นแบบเดิมอีกแล้วและกลัวว่าตัวเองจะถูกตำหนิจากคนรอบข้างเรื่องลูกอีกเพราะตั้งแต่กลับมาก็ได้รับคำชมตลอดว่าลูกดีขึ้นเลยกลัวว่าคำชมเหล่านั้นจะหายไป นอกจากนั้นตอนที่เราตวาดลูกแม่บ้านนั่งอยู่ตรงนั้นและเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เรากังวลว่าแม่บ้านจะคิดตำหนิเราที่เราตวาดลูกเลยเป็นสาเหตุให้หงุดหงิดทั้งวัน เรื่องวันนี้ไม่ได้เกี่ยวกับลูกเลย เราห่วงตัวเองทั้งนั้น

วันนี้ตื่นเช้ามาแม่บ้านไม่ได้เตรียมอาหารไว้ให้เรากับลูกแต่เตรียมไว้ให้คนอื่นๆเหมือนที่เคยเตรียมตอนที่เรากับลูกไม่ได้อยู่เมืองไทย เมื่อเดินไปเห็นโต๊ะอาหารคือโกรธมาก รู้สึกเหมือนไม่มีตัวตนเหมือนไม่ใช่คนในครอบครัว ทำไมไม่มีใครนึกถึงเรากับลูกบ้าง  เวลาเราซื้อของเราจะนึกถึงคนอื่นเสมอ จะซื้อมาเผื่อซื้อมาฝาก ใครชอบอะไรถ้าเราเห็นเราจะเอามาฝาก แต่กลับไม่มีใครนึกถึงเราบ้างเลย น้อยใจมาก อ้าว… นั่นไง เอาอีกแล้ว นี่เรานึกถึงคนอื่นเพื่อให้คนอื่นมานึกถึงเราตอบแทนอีกแล้วสินะ แสดงว่าในสิ่งที่เราทำนั้นเรามักจะแฝงการหวังผลประโยชน์ตอบแทนอยู่เสมอ

แม้กระทั่งกับแมวที่เราเก็บมาเลี้ยงตั้งแต่อายุได้ 2 อาทิตย์เพราะแม่แมวทิ้งลูกไป ต้องคอยดูแลป้อนนมทุก 3 ชั่วโมงเหมือนเลี้ยงเด็กอ่อน เลี้ยงมาได้เกือบปีเราก็เดินทางไปอเมริกาเป็นปี เมื่อกลับมาแมวก็ยังจำได้แต่ไม่มาคลุกคลี ไม่มาแสดงความรักกับเราเหมือนแต่ก่อน เวลาเราไปยุ่งกับมันมากๆมันรำคาญก็ตะปบเอาก็มี โกรธแมวมากคิดในใจว่าเราอุตส่าห์เลี้ยงมา ถ้าเราไม่เอามาเลี้ยงคงไม่รอดแล้วยังมาทำร้ายเราอีก นึกแล้วก็น่าตกใจ นี่เราเอาแมวมาเลี้ยงแต่หวังสิ่งตอบแทนคือความรักความซื่อสัตย์จากแมวรึนี่

เพิ่งจะรู้ว่าการทำอะไรเพื่อหวังสิ่งตอบแทน มันทำให้เราทุกข์ได้มากมาย ทำให้เราหงุดหงิดได้ทั้งวัน ทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ หดหู่ได้ขนาดนี้เชียวหรือ เป็นทุกข์ที่เราสร้างขึ้นมาเองทั้งนั้น เพราะเราไปคาดหวังสิ่งตอบแทนจากคนอื่น ซึ่งเราไม่สามารถไปทำให้ใครมายินดีหรือซาบซึ้งกับสิ่งที่เราทำให้ได้เลย หากเรายังไม่สามารถแก้นิสัยต้องการคำชมและยังมองไม่เห็นความจริงในเรื่องนี้ เราก็คงต้องทุกข์จากเจตนาแอบแฝงของตัวเองอย่างนี้เรื่อยไปไม่มีวันจบ

ต่อนี้ไปจะคอยถามตัวเองในทุกการกระทำว่า เราทำไปเพื่ออะไรเรามีจุดประสงค์แอบแฝงอะไรหรือไม่ เราหวังว่าจะได้อะไรตอบแทน ค้นให้พบว่าสิ่งที่เราต้องการตอบแทนที่แท้จริงจากการกระทำนั้นๆคืออะไร มองให้เห็นความตั้งใจที่แท้จริงของเรา และแก้ไขความเห็นผิดนั้นเสีย โดยพยายามมองให้เห็นความจริงว่าสิ่งที่เราต้องการนั้นธรรมชาติของมันเป็นอย่างไร เมื่อเราทำความดีให้ใครสิ่งที่เราควรจะพิจารณาคืออะไร จะพยายามแก้ไขเพื่อไม่ให้เจตนาแอบแฝงของตัวเองย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองได้อีกต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *