พระราชพิธีถวายพระเพลิง

ได้ดูการถ่ายทอดสดพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ดูไปก็รู้สึกได้ถึงความยิ่งใหญ่ อลังการ ความปราณีต ความตั้งใจ ความทุ่มเทของทุกคนที่ร่วมพิธีที่ตั้งใจทำเพื่อพระองค์ท่าน รู้สึกภาคภูมิใจกับวัฒนธรรมที่งดงามของคนไทย รู้สึกโชคดีที่ครั้งหนึ่งในชีวิตมีโอกาสได้เห็นพระราชพิธีที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ แต่เมื่อนึกขึ้นมาได้ว่าพิธีนี้เป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่ออะไร ก็ต้องตกใจว่าที่คนไทยได้มีโอกาสเห็นพิธีที่มีความยิ่งใหญ่งดงามขนาดนี้ก็เพราะเราต้องสูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งกว่ากษัตริย์พระองค์ใดไปมิใช่หรือ ความงดงามยิ่งใหญ่ที่ได้เห็นนี้นั้นเกิดขึ้นเนื่องมาจากความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

นี่สินะความจริงของโลก การที่เราได้อะไรมาก็ตามมักจะเกิดควบคู่กับการสูญเสียเสมอ ยิ่งได้สิ่งที่มีคุณค่ามากเท่าไหร่ ความสูญเสียก็มากมายเท่านั้น พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงงานหนักทุกวันตลอดระยะเวลา 70 ปีที่ทรงครองราชย์ เสียสละแรงกายแรงใจมากมายเพื่อพสกนิกร ท่านจึงทรงได้รับความรักความภักดีมากมายมหาศาลจากประชาชน และได้รับการยกย่องจากนานาประเทศทั่วโลก พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ทรงได้ขึ้นครองราชย์ เป็นพระมหากษัตริย์ของประเทศ ซึ่งการได้ขึ้นครองราชย์นั้นเกิดขึ้นในทันทีในวันที่พระองค์สูญเสียพ่อ!

ทุกคนที่มีส่วนร่วมในพีธีต้องทำงานหนักต้องอดทนเสียสละเวลาฝึกซ้อมเป็นเวลานานเพื่อให้พิธีเป็นไปด้วยความราบรื่น สิ่งที่พวกเค้าจะได้รับกลับคืนก็คือเสียงชื่นชมจากผู้ที่ได้รับชมผลงานและความปลื้มปิติที่ได้มีส่วนร่วมในงานสำคัญที่จัดขึ้นเพื่อในหลวง ประชาชนที่อยากร่วมพิธีต้องไปต่อคิวข้ามวันข้ามคืนนอนข้างถนนทั้งร้อนทั้งลำบาก ทนนั่งตากแดดเป็นวันๆ เพื่อที่จะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมชมพิธีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่างใกล้ชิด

นักร้องคนหนึ่งซึ่งไม่ค่อยมีชื่อเสียงมากนักกลับโด่งดังข้ามคืนจากการไปออกรายการร้องเพลงใส่หน้ากากที่ทำให้คนได้เห็นความสามารถที่แท้จริงของเค้า จำนวนแฟนเพลงจึงเพิ่มขึ้นได้รับความนิยมอย่างมากมายท่วมท้น งานหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย แต่สิ่งที่เค้าต้องสูญเสียไปก็คือชีวิตที่อิสระ ชีวิตส่วนตัว เวลาส่วนตัว สุขภาพก็ทรุดโทรมเพราะเวลาพักผ่อนน้อยจากการที่ต้องทำงานทุกวันมาเป็นเวลากว่า 8 เดือน ยิ่งได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ ชีวิตส่วนตัวก็หายไปมากเท่านั้น นั่นสินะ ไม่เห็นมีใครได้อะไรมาโดยไม่ต้องสูญเสียเลยสักคน

ตัวเราเองนั้น การได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ มีโอกาสได้ปรับเปลี่ยนวิธีการเลี้ยงลูกจนได้ลูกคืนกลับมา ได้พิจารณาธรรมะอย่างต่อเนื่อง เหล่านี้ต้องแลกกับการได้มีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น พร้อมหน้าพร้อมตา สังคมเพื่อนฝูงที่หายไป รวมทั้งความสะดวกสบายต่างๆที่เคยได้รับ เราได้พิจารณาธรรมะมากมายในขณะที่ไปดูแลคุณแม่ที่ป่วย ที่สำคัญที่สุด คือเราได้เรียนรู้และเข้าใจความตายอย่างที่ไม่เคยเข้าใจมาก่อนก็ต่อเมื่อ คนที่ตายจากไปก็คือแม่ของเราเอง

ความเป็นจริง มันเป็นอย่างนี้เองซินะ เสียไปเพื่อให้ได้มา มาถึงตอนนี้นึกถึงนิทานชาดกเรื่อง พระเวสสันดร ซึ่งเป็นชาดกที่เราข้องใจ ไม่เข้าใจ และต่อต้านมาตลอด ว่าการให้ทานจำเป็นต้องให้ถึงขนาดนั้นด้วยหรือ การให้ทรัพย์สมบัตินั้นพอเข้าใจได้ แต่ทานยิ่งใหญ่ที่ยกลูกของตนเองให้คนอื่น การต้องทนเห็นลูก ตกระกำลำบากนั้น เป็นการให้ทานจริงหรือ ตอนนี้เข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดพระเวสสันดรต้องทำเช่นนั้น หากต้องการเรียนรู้วิธีพ้นทุกข์ จะต้องรู้และเข้าใจทุกข์ที่หนักหนาสาหัสอย่างถ่องแท้ และสิ่งที่จะทำให้คนที่เป็นพ่อแม่ทุกข์หนักได้ที่สุดก็คือ ทุกข์ของลูก สิ่งมีค่าที่สุดที่พระเวสสันดรต้องสูญเสียไป จึงนำมาสู่สิ่งที่มีค่าที่สุดที่พระองค์ได้รับเช่นกัน ดังนั้นหากสิ่งที่เราหวังนั้นยิ่งใหญ่และมีคุณค่ามากเพียงใด จะเตรียมตัวและเตรียมใจยอมรับไว้ได้เลยว่า การสูญเสียก็คงยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *