เมื่อวานนี้ลูกดูการ์ตูนตอนแรกของเรื่อง Powerpuff Girls ซึ่งเป็นเด็ก 3 คนที่ถูกสร้างขึ้นมา คนสร้างได้พาเด็กๆไปเข้าโรงเรียน ขณะที่เล่นอยู่ก็เกิดค้นพบว่าตัวเองมีพลังพิเศษ จึงใช้พลังอย่างเต็มที่ทำให้เมืองวุ่นวายและเสียหายไปหมด ผู้คนในเมืองเลยไม่พอใจ วันต่อมาคนที่สร้างเด็กๆ ถูกจับไปสอบสวน จึงไม่ได้ไปรับที่โรงเรียนเด็กๆเลยพากันเดินกลับบ้านพร้อมกับความน้อยใจ ระหว่างทางก็ได้เห็นข่าวใน TV ว่าคนในเมืองพากันไม่พอใจ จากนั้นก็ได้พบกับตัวร้ายของเรื่องซึ่งเข้ามาทำทีว่าเข้าใจความรู้สึกของการเป็นตัวประหลาดที่ผู้คนไม่ยอมรับได้ดี เด็กๆจึงหลงกลเพราะคิดว่ามีคนเข้าใจตัวเองจริงๆและร่วมมือกับตัวร้าย แต่ตอนท้ายก็รู้ความจริงและแก้ไขสถานการณ์ไปได้ด้วยดี
มันทำให้เราสงสัยว่าทำไม Powerpuff Girls ถึงได้ถูกหลอกได้ง่ายๆ ก็พบว่าตัวร้ายของเรื่องนำเอาสิ่งที่พวกเค้าต้องการที่สุด นั่นคือความรู้สึกว่ามีคนเข้าใจและยอมรับในตัวตนมามอบให้นั่นเอง นี่สินะ คนที่มีความต้องการอะไรบางอย่างก็จะพยายามเสาะแสวงหาสิ่งนั้นอยู่ตลอดเวลา ตัวอย่างมีให้เห็นมากมาย ทั้งในละคร ที่เรามักจะเห็นตัวอิจฉาทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาสิ่งที่ตนเองต้องการโดยไม่สนว่าสิ่งที่ทำจะถูกหรือผิด ทั้งในชีวิตจริงจากคนรอบๆตัวและตัวเราเอง เราได้เห็นคนที่ต้องการความรักที่เสาะหาความรักไปเรื่อยๆ มีทั้งคนที่หยุดเมื่อพบแล้ว คนที่ยังหาอยู่ และคนที่ต้องทุกข์จากคนที่ตั้งใจเข้ามาเอาเปรียบ
ตัวเราเองก็เคยต้องเดือดร้อนจากความต้องการของตัวเองมาแล้วมากมายหลายครั้ง ยอมถูกเอาเปรียบเพื่อจะได้รับคำชมว่า เรียนเก่ง ทำงานดี ยอมเสี่ยงอันตรายเช่นขับรถเร็วเพื่อให้คนที่ขับตามมาเห็นว่าเราขับรถเก่ง ยอมแลกแม้กระทั่งความสุขของลูก ตัวตนของลูก บังคับให้ลูกเป็นแบบที่เราต้องการ เพื่อให้ได้รับการยอมรับและให้คนอื่นเห็นว่าเราเลี้ยงลูกได้ดี จนเกือบจะสายเกินแก้ เกือบทุกการกระทำที่ผ่านมามักจะแฝงไปด้วยความกระหายคำชมตลอดเวลา เรานี่หนักกว่า Powerpuff Girls หลายเท่านักเพราะถูกหลอกจากความต้องการคำชมมาทั้งเกือบทั้งชีวิต
เวลาที่เรามีความต้องการอะไรบางอย่าง สิ่งนั้นมักจะทำให้การมองเห็นความจริงของเราผิดเพี้ยนไป กลายเป็นมองเข้าข้างตัวเอง มองไม่เห็นความจริงว่าสิ่งที่เราทำนั้นถูกหรือผิด เช่นเวลาอยากซื้อเสื้อผ้าใหม่ ถึงแม้เราจะมีเสื้อผ้าอยู่จนล้นตู้แต่เราก็จะหาเหตุผลสารพัดเพื่อมาเข้าข้างตัวเองในการซื้อชุดนั้นจนได้ ความอยากได้สิ่งที่ต้องการนั้นคิดแล้วก็น่ากลัวจริงๆ นี่ถ้าเรายังไม่ได้เห็นว่าตัวเองมีความต้องการคำชมและทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คำชมตลอดมา ป่านนี้ความต้องการคำชมของเราคงทำให้เราเสียลูกไปแล้วจริงๆ
ต่อจากนี้จะพยายามสำรวจตัวเองว่า สิ่งที่เราทำนั้นเราทำไปเพราะอะไร ถ้าหากมีสาเหตุมาจากการต้องการคำชมก็จะต้องเร่งแก้ไข คิดพิจารณาว่าหากไม่ใช่เพราะต้องการคำชม เราจะยังทำเช่นนั้นหรือไม่ และจะนำไปปรับใช้กับการเลี้ยงดูลูก โดยการมองให้เห็นสิ่งที่ลูกต้องการและพยายามให้ในสิ่งนั้นให้เพียงพอเพื่อทำให้ลูกไม่รู้สึกขาดและไม่ต้องไปเสาะแสวงหาจากที่อื่น และหวังว่าจะช่วยให้ลูกมีภูมิคุ้มกัน ไม่ตกเป็นเหยื่อของความต้องการอย่างที่เราเคยเป็น