อ่านหนังสือเล่มหนึ่งสะดุดตอน เจ้าหญิงตกน้ำ นางกำนัลร้องโวยวาย ยืนมองด้วยความไม่สบายใจ แต่ไม่มีใครลงไปช่วยเจ้าหญิงในสระน้ำสักคน
อ่านแล้วรู้สึกว่าอะไรฟะ คนตกน้ำจะตายอยู่ตรงหน้า ทำไมไม่ช่วย มัวแต่ร้องแลกแหกกระเชอ โวยวายอยู่ได้ แต่ไม่ยอมทำอะไรให้ดีขึ้นมา
ถ้าเป็นเราเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นเราจะต้องช่วยเขาจนสุดความสามารถ เราต้องข่วยชีวิตเขาให้ได้ นั่นคือความคิด แต่ในความเป็นจริงล่ะ เราจะสามารถทำอะไรได้แค่ไหน?
เราเคยเป็นคนตกน้ำ ตอนที่ไปทำร้านได้ประมาณ 1 ปีแล้วไม่อยากทำแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ใช่เราอึดอัดมาก อยากออกจากที่นั่น แต่ทำไม่ได้เพราะลงทุนไปเยอะ เพื่อนก็ด่าว่าไม่อดทน มีนิสัยอย่างนี้ถึงทำอะไรไม่เคยสำเร็จ จำได้ว่าอึดอัดคับข้องใจ ทรมานมาก แต่ไม่สามารถช่วยตัวเองได้ ได้แต่กัดฟันทำต่อไป อยากต่อว่าคนอื่นว่าทำไมไม่ช่วยฉัน ฉันกำลังจะตาย ตอนนี้มาคิดได้ว่าเดินอย่างไรให้ตกลงมาเอง ไม่มีคนผลักเลย คิดว่าตัวเองว่ายน้ำเป็น แต่ตกลงไปนี่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แล้วที่จริงเราเองต่างหากที่เดินลงน้ำด้วยความโลภไม่เคยมองว่าทุกอย่างมีสองด้าน มีขาดทุนมีกำไร อึดอัดเพราะอยากที่จะได้ถ่ายเดียว
เคยยืนมองคนอื่นจมน้ำ-ด้วยความที่ตอนนั้นเป็นเด็กว่ายน้ำก็ไม่เป็น โดดลงไปคงตายคู่ ได้แต่ยืนดูว่าเขาจะช่วยคนนั้นขึ้นมาได้ไหม ตอนแรกที่อ่านข้อความว่านางกำนัลได้แต่ยืนดู ใจเราก็คิดทันที ยืนทำไม ไม่รู้จักเข้าไปช่วย เราเป็นนางกำนัลตอนที่อยากช่วยเพื่อนแต่ช่วยไม่ได้เพราะ ทุกอย่างประดังเข้ามาในเวลาเดียวกัน เราได้แต่ทำงานตรงหน้าเราให้ดีที่สุด ทำงานอยู่สองคนลูกค้านั่งเต็มร้าน ลูกค้า Togo ก็มาเอา เพื่อนก็ด่าว่าเราไม่ช่วย ให้มาทำ Togo เดี๋ยวเราทำในร้านก็ไม่เอา ในเมื่อเราเองไม่สามารถที่จะทำทุกสิ่งอย่างในเวลาเดียวกันได้ ก็ต้องเลือกทำงานที่อยู่ในความรับผิดชอบให้ดีที่สุด ใครไม่พอใจเราก็ต้องยอมรับตรงนั้นว่า เราไม่สามารถที่จะทำได้
แล้วการร้องโวยวายของนางกำนัลไม่มีประโยชน์เลยหรือ นั่นไม่ใช่การช่วยเหลือหรืออย่างไร การที่เราโดนเพื่อนต่อว่า ว่าเราไม่ช่วยเขา มันทำให้เรารู้ว่าต้องรีบทำงานให้เร็วขึ้น เขาไม่ไหวแล้ว เพียงแค่บอกให้รู้เฉยๆ นี่แหละ นี่ก็ช่วยเราให้เกิดความคิดใหม่ๆ ขึ้นมา ว่าทำอย่างไรจะช่วยเขาได้มากที่สุด เช่นเดียวกันกับการร้องของนางกำนัล เสียงร้องโวยวายมันก็ทำให้คนได้ยิน และเจ้าหญิงได้รับการช่วยเหลือในที่สุด
การที่ใครคนใดคนหนึ่ง ตัดสินใจทำการกระทำอะไรสักอย่างในเหตุการณ์นั้น มันต่างกันไปขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ความคิดของแต่ละคน เราที่เป็นคนมาเห็นหรืออยู่ร่วมในเหตุการณ์นั้นๆ ก็ตัดสินใจที่จะแก้ไขสถานการณ์แตกต่างกัน แล้วเราจะเอาอะไรไปสรุป คิด คาดหวังว่าทุกคนจะต้องแก้ไขเหมือนอย่างที่เราทำ เราเองยังทำอย่างที่คิดไม่ได้ แล้วทำไมยังกล้าไปตัดสินคนอื่น