นรกของแม่เมื่อลูกป่วย

วันหนึ่งลูกไม่สบายบอกว่าปวดหูตอนกลางคืน โทรไปถามที่โรงพยาบาล หมอทางด้านหูเด็กกลับไปหมดแล้ว เลยนัดไว้วันรุ่งขึ้นตอนเช้า คืนวันนั้นกังวลมากเป็นห่วงลูก กลัวเป็นอะไรมากไม่สบายใจเลย นี่มันนรกสำหรับคนเป็นแม่ชัดๆ

ทำไมเมื่อลูกป่วยจึงเป็นนรกสำหรับเรา

  • ที่เรากังวลมาก เพราะลูกมาบอกเราตั้งแต่วันก่อนหน้านั้นแล้วว่าปวดหู แต่เราดูแล้ว ไม่บวม ไม่แดง ไม่น่าจะเป็นอะไร เลยไม่ได้พาไปหาหมอ พอวันที่ลูกบอกว่าปวดมากตอนกลางคืน ลูกบอกว่าปวดมากขึ้น และปวดทั้ง 2 ข้าง เราเลยกังวลว่าลูกจะเป็นอะไรมากเพราะเราไม่รีบพาไปหาหมอ
  • ช่วงนั้นเราดูแลลูกเองตลอดช่วงปิดเทอม ลูกแทบจะไม่ห่างเรา เราคิดว่าเราดูแลอย่างดีแล้ว พยายามหาทางป้องกันการเจ็บป่วยเท่าที่ทำได้ แต่ลูกก็ป่วยจนได้
  • ใกล้วันเดินทางไปอเมริกาแล้ว กลัวว่าถ้าลูกเป็นอะไรมาก แผนที่วางไว้จะต้องยกเลิกและจะเกิดความยุ่งยากมากมายตามมา

เราเห็นผิดอย่างไรในเหตุการณ์นี้

  • เราเห็นผิดว่า ความเจ็บป่วยเป็นสิ่งที่เราควบคุมได้ เราพยายามป้องกันเช่น ไม่ให้ตากฝน ให้ทานอาหารมีประโยชน์ ไม่ให้ยุงกัด หรือพาไปฉีดวัคซีน คือทำทุกทาง เราปักเที่ยงว่าจะป้องกันได้ ซึ่งจริงๆแล้วมันป้องกันไม่ได้ แม้กระทั่งวัคซีน หมอก็จะบอกทุกครั้งว่าไม่สามารถป้องกันโรคได้ 100% ลูกฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ทุกปี แต่บางปีก็ยังเป็นทั้งที่ป้องกันแล้ว ขนาดยาที่ใช้กันทั่วโลกยังป้องกันไม่ได้ 100% แล้วเราเป็นใครเราถึงคิดว่าจะป้องกันโรคให้ลูกได้
  • ลูกบอกว่าปวดมากขึ้น ปวดทั้งสองหู เราก็กลัวเพราะเรานึกถึงเรื่องของลูกเพื่อน ที่ปวดหูรุนแรงแล้วหมอบอกว่าแก้วหูทะลุ เราเอาเรื่องของคนอื่นมาสรุปทำให้ตัวเองทุกข์ โดยที่ไม่มีหลักฐานเพียงพอเพราะถ้าเป็นถึงขนาดนั้น อาการน่าจะรุนแรงกว่านี้มาก รวมถึงต้องมีไข้ แต่นี่ อาการลูกไม่ได้ปวดรุนแรง ไข้ก็ไม่มี
  • เราเห็นผิดว่า เมื่อลูกป่วยคนอื่นจะว่าเราว่าเลี้ยงลูกไม่ดี ซึ่งไม่เกี่ยวกันเลย เราเอาปมของเราไปโยงกับอาการป่วยของลูกทั้งที่ไม่เกี่ยวกัน ยิ่งพอเราไม่ได้พาลูกไปหาหมอทันทีแล้วลูกปวดมากขึ้น เราก็เห็นผิดอีกว่าคนอื่นจะมองเป็นความผิดของเรา นี่เรื่องลูกป่วยแต่เรากลับคิดถึงแต่ตัวเอง ห่วงแต่ตัวเอง
  • เราเห็นผิดว่า ถ้าลูกไม่สบายจะเป็นสาเหตุที่ทำให้แผนการเดินทางต้องเปลี่ยนแปลง จริงๆแล้วยังมีสาเหตุอื่นๆมากมายที่อาจเกิดขึ้นได้ก่อนการเดินทางแล้วเป็นเหตุให้เดินทางไม่ได้ เช่น เกิดเหตุร้ายที่เมืองไทยหรือที่อเมริกา เราหรือคนอื่นๆ ไม่สบาย หรือเกิดสภาพอากาศเลวร้าย เกิดสงคราม หรืออื่นๆมากมายที่เกิดขึ้นได้

 

เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากนรกนี้

ถ้าดูจากความเห็นผิดของเราในเรื่องนี้ เห็นได้ชัดว่า เมื่อลูกป่วยเราห่วงลูกจริงๆ แค่ประมาณ 1 ใน 4 เพราะ อาการลูกไม่ได้เป็นมาก หูไม่บวม ไม่แดง ไข้ไม่มี แต่อีก 3 ส่วนเราห่วงตัวเองทั้งนั้น ห่วงว่าคนจะว่าเราผิด ว่าเราเลี้ยงลูกไม่ดี ว่าเราไม่เก่ง และยังกลัวว่าจะเกิดความยุ่งยากกับตัวเองถ้าต้องเลื่อนการเดินทาง กลัวว่าตัวเองจะเดือดร้อน

นี่ถ้าไม่ได้มานั่งพิจารณาความรู้สึกตัวเองเช่นนี้ เราจะไม่เห็นเลยว่า ลึกๆแล้วเราห่วงตัวเองตลอดเวลา พอมานั่งนึกถึงเรื่องที่เราทุกข์หรือกังวลอยู่ ก็บอกได้ทันทีว่า ทุกเรื่องนั้นเกิดจากการห่วงตัวเองของเราทั้งนั้น เช่น เราค่อนข้างกังวลเรื่องการย้ายไปอเมริกาเพื่อพาลูกไปเรียน จนบางทีเกิดความรู้สึกไม่อยากไป เราเคยคิดว่าเป็นเพราะ เราห่วงคนที่เมืองไทย ห่วงพ่อแม่ ห่วงหลาน ห่วงสามี ห่วงแมว แต่จริงๆ ลึกๆแล้วเราห่วงตัวเอง ห่วงว่าตัวเองจะไปลำบากเพราะไม่มีคนช่วย ห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายเพราะคงต้องประหยัด ห่วงว่าต้องรับผิดชอบทุกอย่างคนเดียวแล้วจะทำได้ไม่ดีแล้วโดนตำหนิ โดยเฉพาะเรื่องดูแลลูก เพราะลูกอยู่ในช่งหัวเลี้ยวหัวต่อ ห่วงว่าตัวเองจะเหงาเพราะไม่มีเพื่อน ห่วงว่าคนที่นั่นจะดูถูกหรือไม่ต้อนรับเรา ห่วงสารพัด

ที่ผ่านมาที่เราเคยคิดว่า เราเสียสละ เราทำเพื่อคนอื่นโดยเฉพาะทำเพื่อลูก มานั่งดูลึกๆอีกทีแล้ว เราทำทุกอย่าง ก็เพื่อตัวเองทั้งนั้นหรือนี่!!!

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *