หน้าที่หลักอย่างนึงที่เจ้านายไว้เนื้อเชื่อใจให้เราทำคือ เวลาที่ลูกค้ามาเลือกชุดแต่งงานแล้วอยากเปลี่ยนแบบ เราจะเป็นคนที่เซลต้องมาถามเพื่อให้เรา approve ว่าทำได้ทำไม่ได้ เช่น อยากให้กระโปรงแคบขึ้นหรือกว้างขึ้น หรืออยากผสมชุดสองชุดเข้าเป็นชุดเดียว เช่น อยากได้ช่วงตัวบนของชุดนี้มาผสมกับกระโปรงของอีกชุดนึง เพราะเรามีหน้าที่ออกแบบชุดพวกนี้กับเจ้านาย เค้าเลยเชื่อใจให้เราเป็นคนตัดสินใจบอกลูกค้าว่าอันไหนทำได้ อันไหนทำไม่ได้ เพราะเรารู้จักโครงสร้างของชุด ชนิดของผ้าและดีไซน์ต่างๆเป็นอย่างดี ที่ผ่านมาผลก็ออกมาดีเกือบทุกครั้ง มีบ้างบางครั้งที่เราทำผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ แต่เราก็แก้ปัญหาได้หมด แต่ในครั้งนี้มันไม่เหมือนครั้งทั่วๆไป
มีลูกค้าคนนึงเค้ามาลองชุดแล้วชอบชุดนี้มาก แล้วอยากได้กระโปรงที่แคบสอบมากกว่าเดิมเพื่อเน้นหุ่นและสะโพกของเค้า ให้ดูสวยผอม และเซ็กซี่อย่างมีคลาส ด้วยความมั่นใจเต็มร้อย เราก็บอกเลยว่า ได้เลย ทำอย่างนี้ๆนะ รับรองเพอร์เฟ็กสวยงามตามที่ลูกค้าต้องการ เราดูๆจับๆกะคร่าวๆด้วยสายตา ก็มันใจว่าเวิร์คแน่นอน ปรากฎว่าตอนช่างทำชุดเสร็จ เราตรวจเช็คดูชุดบนหุ่นถึงกับตกใจมากว่าทำไมรูปร่างกระโปรงมันออกมาประหลาดอย่างนี้ ไม่เวิร์คแน่นอน ดีนะยังมีเวลาแก้ก่อนที่ลูกค้าจะเห็น ตกใจมากไม่เคยคิดเลยว่าเราจะทำผิดพลาดได้ขนาดนี้ ถึงขั้นที่ว่าต้องแก้ใหม่หมด เจ้านายก็ยังแทบไม่เชื่อว่าเราทำผิด ถึงกับออกปากว่าช่างทำแพทเทิร์นรึป่าวที่ทำผิด ไม่ใช่เราที่สั่งงานผิด หลังจากเช็คดูรายละเอียดต่างๆ เรารู้ตัวเลยว่าเราผิด เราเลยถามตัวเองว่า ความผิดพลาดมันมาจากอะไร ย้อนเหตุการณ์ไปจนได้คำตอบว่าเรามั่นใจเกินไป ไม่รอบคอบ ไม่ตรวจทาน ด้วยความเย่อหยิ่งคิดว่าเราเก่ง คิดว่าเราไม่เคยพลาด (จริงๆเลือกไม่จำความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆมากกว่า) เรามั่นใจเกินร้อยมากว่าจะเป๊ะ แต่เพราะความมั่นใจจนเกินไป ทำให้เราปักเที่ยง และไม่เผื่อใจในความผิดพลาดนี้เลย ถ้าเราไม่มั่นใจว่าเราเก่งขนาดนั้น เราจะค่อยๆทำ ค่อยๆเช็ค และตรวจทาน ความผิดพลาดจะไม่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ นี่เป็นหลักฐานครั้งแรกที่ทำให้เราจนมุมว่าเราก็ผิดเละเทะแบบถล่มทลายได้ เราไม่ใช่คนเดียวที่เก่งเสมอตลอด ไม่ใช่แค่คนอื่นที่ผิดเละเทะได้มากมาย เราก็ผิดได้เช่นกันถ้าไม่รอบคอบ อัตตาตัวตนที่เห็นว่าชั้นเก่งชั้นดีกว่าคนอื่นมันก็เลยหดลงมา จุดนี้เป็นจุดหักเหที่สำคัญมากในใจเรา เพราะเราเชื่อมาตลอดว่าเราจะไม่ทำอะไรที่ผิดพลาดได้ขนาดนี้ เวลาช่างทำแพทเทิร์น ช่างตัด หรือช่างเย็บ ทำผิดเรื่องใหญ่ๆ เราจะว่าเค้าตลอดว่าทำไปได้ยังไง ว่าเค้าในใจว่าความผิดพลาดงี่เง่าอย่างนี้มันไม่น่าเกิด พอเรื่องนี้มันเกิดขึ้นกับเรา มันก็ทำให้เราเห็นได้ชัดว่าเราไม่ได้ดีไปกว่าเค้าเลย เพราะความผิดพลาดครั้งใหญ่นี้เองเราจะเก็บมันไว้เตือนใจ เวลาที่มั่นใจในเรื่องอะไรมากๆ จะจำไว้มาสอนใจว่า จริงแล้วหรือที่เราคิด แน่แล้วเหรอ เป็นไปได้มั้ยว่าผลมันจะออกมาอีกทาง จะทำให้เราหัดลองฟังคนอื่นบ้าง ไม่ใช่คิดแต่จะเอาแต่ใจต้วเองเพราะคิดว่าเราดีเราเก่งกว่าคนอื่น