วันก่อนขับรถออกจากบ้าน มารอเลี้ยวซ้ายที่ไฟแดงหน้าหมู่บ้าน พอไฟเขียว ปกติเราจะไม่ออกก่อนใครอยู่แล้ว จะรอให้รถข้างๆออกก่อนจึงออกตาม เพราะเคยเห็นอุบัติเหตุจากการฝ่าไฟแดงต่อหน้าต่อตามาแล้วเลยจะระวังมาก สัญญาณไฟหน้าหมู่บ้านจะเขียวพร้อมกันทั้งทางเลี้ยวทางตรง พอรถทางตรงออก เราก็เคลื่อนรถเตรียมเลี้ยวซ้าย จังหวะกำลังหักเลี้ยว มีรถทางตรงจากฝั่งตรงข้ามวิ่งสวนมาเร็วมาก แต่เพราะเรามาช้า เลยชะลอทัน ตกใจมากเพราะถ้าเราออกเร็วกว่านี้นิดเดียว คงโดนชนอย่างแรงแน่
ติดใจสงสัยเป็นอย่างมาก เล่าให้สามีฟังเค้าก็บอกว่า รถคันนั้นฝ่าไฟแดงมาแน่ๆ ใจเราก็คิดว่าใช่ เพราะจากที่สังเกตุจังหวะไฟ ฝั่งตรงข้ามควรจะเป็นไฟแดง ฝั่งเราจึงจะไฟเขียว แต่เพราะนึกถึงความไม่เที่ยงจึงไม่ปักใจเชื่อ วันนี้จึงไปยืนดูสัญญาณไฟฝั่งตรงข้าม ปรากฏว่าจังหวะไฟไม่ใช่อย่างที่เราคิดเลย มันไม่ได้เป็น pattern ทุกครั้ง แต่จะเปลี่ยนไปตามปริมาณรถที่รอไฟแดง ถ้าฝั่งตรงข้ามเรามีทั้งรถรอเลี้ยวซ้ายและรอตรงไป สัญญาณเลี้ยวและตรงจะเขียวและแดงพร้อมกันเหมือนที่เราคิด แต่ถ้าไม่มีรถรอเลี้ยวซ้าย สัญญาณไฟเขียวทางตรงจะเขียวพร้อมกันทั้ง 2 ฝั่ง ให้วิ่งสวนกัน ซึ่งในวันนั้น เป็นไปได้ว่าตอนฝั่งเราไฟเขียว ทางตรงฝั่งตรงข้ามก็เขียวเหมือนกัน แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ใครผิดกันแน่
เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมเลยมายืนสังเกตุสัญญาณไฟเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกนั้น ปรากฏว่าทั้ง 3 ฝั่งเป็นลูกศรให้เลี้ยว ซึ่งแบบนี้แสดงว่ารถทางสวนต้องหยุด แต่สัญญาณฝั่งที่มาจากบ้านเราเป็นไฟเขียวกลมๆทางช่องเลี้ยวซ้าย ซึ่งแสดงว่าเลี้ยวซ้ายได้ถ้าไม่มีรถทางตรงสวนมา นั่นแสดงว่า วันนั้นเราเองที่ผิด! เราไม่สังเกตุสัญญาณไฟให้ดีเอง นี่ถ้าเราไม่มายืนดูแบบนี้ เราจะไม่รู้เลย แต่ตอนนี้ทุกอย่างกระจ่าง เดชะบุญจริงๆที่วันนั้นไม่เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
การปักเที่ยงของเราโดยสรุปเอาจากประสบการณ์ในการรอไฟแดงจุดนี้ตลอดมา อาจก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต และถ้าหากเรายังปักเที่ยงต่อไป ไม่ไปดูให้รู้ ไม่หาหลักฐานเพิ่มเติม สักวันคงเกิดอุบัติเหตุที่แยกนี้จริงๆ เรื่องนี้ทำให้รู้ว่าขับรถที่นี่ ต้องมีสติ ต้องมองให้รอบ เราต้องระวังของเราเอง ต่อไปต้องระวังและสังเกตุให้มากกว่านี้ และเรื่องนี้ยังย้ำเตือนอีกว่า สิ่งต่างๆที่ผิดพลาด หรือไม่เป็นไปอย่างที่เราคิด มักจะเกิดจากความผิดของเรา บางครั้งดูเหมือนว่าเราเป็นฝ่ายถูกกระทำ เพียงแต่เราต้องเปิดใจ และหาหลักฐานเพิ่มเติมให้ได้มากที่สุด แล้วเราก็จะได้เห็นและยอมรับได้ว่า จริงๆแล้ว เรานั่นเองที่ผิด