นิสัยแก้ตัว

เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ขณะกำลังขับรถบน highway มีก้อนหินกระเด็นมาโดนกระจกหน้ารถอย่างแรง ทำให้มีรอยแตกที่กระจกประมาณครึ่งนิ้วแต่ไม่ทะลุถึงกระจกชั้นใน ตอนนั้นตกใจมาก ความคิดแวบแรกที่เกิดขึ้นคือจะบอกสามีว่าอย่างไรดี จะบอกว่าขับอยู่บนถนนเส้นไหนแล้วกำลังจะไปไหนดี แล้วก็มาเอะใจว่า จะขับบนถนนเส้นไหนมันจะต่างกันยังไง ที่ที่เรากำลังจะไปก็คือซุปเปอร์มาร์เก็ตจีนเพื่อไปซื้อของเข้าบ้านไม่ได้ไปเที่ยวเล่นที่ไหน แล้วเหตุที่เกิดก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงได้ยากถือเป็นเหตุสุดวิสัย แล้วเราจะหาทางแก้ตัวไปทำไมกัน

 
เรื่องนี้ทำให้เห็นชัดเจนว่าเราเป็นคนชอบแก้ตัว มักจะหาวิธีหรือคำพูดแก้ตัวไว้เสมอเพื่อป้องกันตัวเองจากการถูกตำหนิหรือดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ซึ่งสืบเนื่องมาจากนิสัยที่อยากให้คนอื่นเห็นว่าเราดีเราเก่งร่วมกับนิสัยอยากได้คำชม เราจึงสร้างกระบวนการในการป้องกันตัวเองจากการถูกต่อว่าหรือถูกตำหนิด้วยการแก้ตัว มานึกดูก็พบว่าเราทำแบบนี้บ่อยมาก เช่นเราเห็นรองเท้าบูทลดราคาก็ซื้อมา แต่ในใจก็คิดไว้แล้วว่าจะบอกสามีว่าให้ถือเป็นของขวัญวาเลนไทน์จากสามีซึ่งไม่เคยให้ของขวัญวาเลนไทน์เลย แทนที่จะบอกว่าเราซื้อเพราะอยากได้ หรือเวลาที่เราทำอาหารให้ลูกแล้วลูกบอกว่าไม่อร่อย เราจะแก้ตัวว่าเราไม่ใช่แม่ครัวและไม่ได้เป็นคนชอบทำอาหาร
 
เมื่อเร็วๆนี้ได้รับจดหมายต่อว่าจากทาง HOA กรณีที่คนเช่าบ้านขับรถชนประตูโรงรถแล้วยังไม่ซ่อมเป็นเวลากว่า 3 เดือน เราก็โทรไปแก้ตัวทันทีว่าเราเป็นเจ้าของบ้านก็จริงแต่เราไม่ได้ทำเสียหายคนเช่าบ้านต่างหากที่เป็นคนทำ ซึ่งก็โดนสวนมาทันทีเช่นกันว่า อย่างไรก็ตามมันเป็นความรับผิดชอบโดยตรงของเจ้าของบ้านที่จะต้องแจ้งหรือเตือนให้ผู้เช่าทำการซ่อมตามกฏของ HOA หรือเรื่องที่เรารับปากลูกว่าจะซ่อมตุกตาที่ขาดให้แต่ก็ยังไม่ได้ทำสักที พอลูกถามก็แก้ตัวว่าแม่ยุ่งมีเรื่องให้ทำตลอดเลยยังไม่ได้ซ่อมให้ ทั้งที่ถ้าทำจริงๆ ไม่ถึง 5 นาทีก็เสร็จ
 
เมื่อมานั่งพิจารณาอีกที การที่เรามัวแต่มานั่งแก้ตัวทำให้เราไม่เห็นความผิดพลาดของตัวเองและยังเสียโอกาสที่จะปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นอีกด้วย เรื่องที่หินกระเด็นใส่กระจกรถนั้น ถ้าคิดดูดีๆ ตอนที่เกิดเหตุเรากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ไม่ได้ตั้งใจขับรถอย่างเต็มที่ ซึ่งอาจทำให้เราขับเข้าไปใกล้รถคันหน้ามากเกินระยะห่างปกติที่เราขับก็เป็นได้ ถ้าเรายอมรับและแก้ไขด้วยการเตือนตัวเองให้ตั้งใจขับรถทุกครั้งน่าจะดีกว่า หรือเรื่องทำอาหารไม่อร่อย ถ้าเราไม่แก้ตัวแต่ยอมรับและขอคำแนะนำจากลูกว่าควรจะแก้ไขยังไง ควรเพิ่มหรือลดอะไร เพื่อนำไปปรับปรุงคราวหน้า แต่พอเราแก้ตัวไปอย่างนั้น ลูกก็เลยไม่กล้าแนะนำหรือออกความเห็นอะไรอีก
 
เมื่อลูกมาถามเรื่องซ่อมตุ๊กตา หากเรายอมรับและซ่อมให้เลย ก็จะเป็นการฝึกนิสัยทำทันทีของตัวเอง และยังเป็นตัวอย่างให้ลูกเห็นถึงการไม่ผลัดวันประกันพรุ่งอีกด้วย เรื่องซื้อรองเท้าบูท เราเองก็ไม่ได้ซื้อของราคาแพงอะไรมากและสามีก็ไม่เคยต่อว่าเรื่องการซื้อของของเราเลย แต่เรากลับจะไปทำร้ายความรู้สึกของสามีด้วยคำแก้ตัวของเราโดยไปว่าเค้าว่าไม่เคยให้ของขวัญวาเลนไทน์ ทั้งๆที่สิ่งที่สามีให้เรามาตลอดตั้งแต่แต่งงานกันนั้น มันเกินกว่าของขวัญในวันเทศกาลมากมายนัก ส่วนเรื่องคนเช่าบ้าน แทนที่จะคิดว่าไม่ยุติธรรมที่เราโดนว่าเพราะเราไม่ได้ทำ แต่ถ้าคิดตามความเป็นจริงแล้วเจ้าของบ้านก็ต้องรับผิดชอบจริงๆ กรณีนี้คนเช่าต้องเป็นผู้ซ่อมอยู่แล้ว แต่เราในฐานะเจ้าของบ้านก็ปล่อยปละละเลย ไม่ติดตาม ไม่ทวงถาม ก็สมควรแล้วที่ทาง HOA จะมาต่อว่าเรา
 
เห็นได้ชัดว่านิสัยชอบแก้ตัวเป็นอุปสรรคสำคัญในการปรับปรุงตัวเองอย่างมาก และยังเป็นการสื่อให้ลูกเห็นอีกว่า การแก้ตัวคือสิ่งที่ทำได้ เพราะแม่ก็ทำให้เห็นเป็นประจำ และในบางครั้งการแก้ตัวของเรายังไปทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นอีกด้วย ดังนั้นจะพยายามกำจัดนิสัยชอบแก้ตัวให้ได้เพื่อจะได้ไม่พลาดโอกาสที่จะเห็นความผิดของตัวเอง และแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *