บาดเจ็บ(1)

2 สัปดาห์ที่แล้วเกิดอุบัติเหตุล้มในขณะเล่นเทนนิสทำให้ข้อเท้าแพลงค่อนข้างรุนแรง เดินไม่ได้เลย 2 วัน ผ่านมาสองอาทิตย์ก็ยังเดินได้ไม่ปกติ ลงน้ำหนักมากไม่ได้ ช่วงที่เจ็บอยู่นั้นได้มองเห็นความจริงอะไรหลายๆอย่างในมุมที่เราไม่เคยมองเห็นมาก่อน บางอย่างก็ทำให้เราอึ้ง บางอย่างก็ทำให้เราภูมิใจ บางอย่างที่เป็นสิ่งที่เราคิดว่าไม่ดี กลับมีประโยชน์อย่างมากมาย ได้เห็นความสำคัญของบางสิ่งที่ไม่เคยมีความสำคัญกับเราเลย

สิ่งแรกที่ได้เห็นคือมุมมองของเราที่มีต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นแตกต่างไป ครั้งนี้เมื่อเกิดเหตุเรานึกถึงสิ่งที่ควรทำต่อไปมากกว่าสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ซึ่งเป็นสิ่งหนึ่งในตัวเราที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเพราะโดยนิสัยดั้งเดิมแล้วเรามักจะชอบคิดถึงเรื่องที่ผ่านไปและคิดว่าเราน่าจะหรือไม่น่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้ นำไปสู่การโทษตัวเองหรือไม่ก็โทษคนอื่นกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ครั้งนี้สิ่งที่คิดคือมุ่งไปข้างหน้า สำรวจตัวเองว่าบาดเจ็บรุนแรงแค่ไหน ขับรถกลับบ้านและไปรับลูกได้หรือไม่ ถ้าขับรถไม่ได้หรือปวดมากขึ้นจะขอความช่วยเหลือจากใคร เป็นต้น ส่วนการคิดถึงสิ่งที่ผ่านไปแล้วก็จะเป็นการคิดหาสาเหตุและวิธีป้องกันมากกว่ามุ่งโทษใคร

สิ่งที่ทำให้อึ้งคือได้เห็นนิสัยของตัวเอง ได้เห็นว่าเรามักจะคิดว่าสิ่งที่เราคิดและทำนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดซึ่งปิดกั้นความจริงทำให้มองไม่เห็นวิธีแก้ปัญหา เราได้เห็นนิสัยนี้จากการขึ้นลงบันไดบ้าน ตอนนั้นการขึ้นลงบันไดเป็นสิ่งที่ยากลำบากที่สุดเพราะไม่สามารถลงน้ำหนักบนเท้าที่เจ็บได้เลย สิ่งที่เราทำคือพยายามจะโหนตัวกับราวบันไดและเดินขึ้นไปให้ได้ซึ่งยากมาก เมื่อลูกคนเล็กกลับมาถึงบ้านแค่บอกว่า แม่นั่งลงแล้วค่อยๆ ขยับขึ้นลงบันไดไปทีละขั้นแบบที่เค้าชอบเล่นสิ นั่นคือใช่เลย! วิธีนั้นทำให้ปัญหาของการขึ้นลงบันไดของเราหมดไปทันที

สิ่งที่ทำให้อึ้งอีกอย่างหนึ่งคือ เมื่อเราใช้วิธีนั่งเพื่อขึ้นลงบันไดมันทำให้เราได้เห็นราวบันไดในอีกมุมนึง เราได้เห็นฝุ่นมากมายตรงส่วนล่างของราวบันไดที่ไม่เคยเห็นและไม่เคยทำความสะอาดเลยตั้งแต่อยู่มา ปกติแล้วเวลาทำความสะอาดบันไดจะยืนดูดฝุ่นและเห็นว่าขอบราวบันไดล่างก็ขาวดีไม่สกปรกอะไร แต่พอเราเปลี่ยนมุมมองจากยืนเป็นนั่งกลับเห็นฝุ่นบริเวณนั้นชัดเจน นอกจากจะได้รู้ว่าตัวเองเป็นคนไม่ละเอียดรอบคอบแล้วยังได้เห็นว่า เราเป็นคนที่มองอะไรจากมุมของตัวเองและไม่ลองมองในมุมของคนอื่นที่จะช่วยให้เห็นความจริงบางอย่างที่แตกต่างออกไป ไม่สงสัยเลยว่า ทำไมเราถึงทะเลาะกับลูก และไม่เข้าใจกันอยู่บ่อยๆ เพราะเราก็มองในมุมของเรา ลูกก็มองในมุมของลูก หากมีใครสักคนลองมองในมุมของอีกฝ่ายบ้างคงลดปัญหาความขัดแย้งลงได้มากทีเดียว

ดังนั้นจากการบาดเจ็บครั้งนี้ ทำให้ได้เห็นนิสัยตัวเอง ความเปลี่ยนแปลงของตัวเอง และแนวทางที่จะปรับปรุงแก้ไขตัวเองต่อไป หลายคนพูดว่า ไม่ต้องเล่นแล้วเทนนิสถ้าเล่นแล้วบาดเจ็บขนาดนี้ แต่เรากลับเห็นว่า สิ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุคือการไม่ประมาณตนของเรา ดังนั้นต่อไปก็จะเล่นแต่พอประมาณไม่ทุ่มเทจนกระทั่งต้องบาดเจ็บ นอกจากนี้จะพยายามมองอะไรในมุมของคนอื่น มองหลายๆมุม เปิดใจให้กว้าง โดยเฉพาะกับลูก เมื่อเกิดความขัดแย้งจะพยายามมองในมุมของลูกบ้าง เพราะได้เห็นและประสบกับตัวเองแล้วว่าสิ่งที่เราคิดว่าถูกแล้วดีแล้ว อาจจะไม่ได้ดีกับทุกคนและทุกสถานการณ์เสมอไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *