เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของเพื่อนๆหลายคน ซึ่งเราก็อวยพรวันเกิดผ่านทาง facebook หรือ line แล้วแต่ช่องทางที่สะดวก และเมื่อวานนี้อีกเช่นกัน ที่ได้ทราบข่าวว่าเพื่อนสมัยมัธยมเสียชีวิตจากอาการหัวใจวาย มันทำให้เรารู้สึกสะดุดใจว่า ในวันเพียงหนึ่งวัน วันนั้นเป็นทั้งวันที่มีความสุขจากการได้รับพรได้รับของขวัญมากมายของเพื่อนคนหนึ่ง แต่กลับกลายเป็นวันที่แย่ที่สุดของอีกคนหนึ่งจนถึงขั้นเสียชีวิต วันหนึ่งวันของเพื่อนเราทั้งสองคนมันแตกต่างกันสุดขั้วขนาดนี้เชียวหรือ
ไม่เพียงแค่วันวันนึงจะมีความหมายต่อแต่ละคนต่างกัน วันที่เคยมีความหมายอย่างหนึ่งยังสามารถเปลี่ยนไปแบบหน้ามือเป็นหลังมือเลยก็มี วันแม่แห่งชาติสำหรับเรา เมื่อก่อนคือวันที่มีความสุข วันที่ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาได้พาคุณแม่ไปหาอะไรอร่อยๆทาน แต่มาตอนนี้กลับกลายเป็นวันครบรอบวันเสียชีวิตของคุณแม่ จากวันที่เราเคยจดจำว่าเป็นวันดีๆกลับกลายเป็นวันแห่งความสูญเสียและทำให้ความหมายของวันแม่สำหรับเราไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป
แม้กระทั่งความรู้สึกที่มีต่อวันคล้ายวันเกิดของตัวเองก็ยังเปลี่ยนไปตามช่วงเวลา เมื่อตอนเด็กก็ตื่นเต้น อยากให้ถึงวันเกิดเพราะอยากได้ของขวัญและรู้สึกว่าได้เป็นคนสำคัญในวันนั้น แต่พอมาตอนนี้ ไม่ได้รู้สึกยินดีกับวันคล้ายวันเกิดเท่าไหร่เพราะกลายเป็นวันที่ย้ำเตือนตัวเองว่าอายุมากขึ้นอีกหนึ่งปี นั่นหมายความว่าความเสื่อมต่างๆของร่างกายก็จะเพิ่มขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ทั้งๆที่วันเวลาก็ดำเนินไปอย่างนี้วนเวียนกลับมาอย่างนี้อยู่ตลอดเวลา แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือความรู้สึกของเราที่มีต่อวันนั้นๆนั่นเอง
นึกถึงวันครบรอบแต่งงานที่ผ่านมาแล้ว 18 ครั้ง ซึ่งในแต่ละปีเราก็มีความรู้สึกที่แตกต่างออกไป ผ่านมานานวันเข้า วันครบรอบแต่งงานก็เป็นแค่เพียงวันที่บอกให้รู้ว่าเราแต่งงานมาแล้วนานเท่าไหร่ นี่แสดงว่า วันสำคัญต่างๆที่เราให้ค่า ให้ความหมายนั้น มันไม่ได้เหมือนเดิมและจะเปลี่ยนแปลงไปตามความรู้สึกหรือประสบการณ์ของแต่ละคนที่มีต่อวันนั้นๆ เช่นวันแม่สำหรับเราในวันนี้เปลี่ยนไป แต่ถ้าหากเราตาย วันแม่ในความรู้สึกของลูกก็จะเปลี่ยนไป และจะเปลี่ยนไปอีกครั้งในวันที่ลูกเราได้มีลูกของตัวเอง
ในความเป็นจริง วันครบรอบต่างๆ ก็เป็นเพียงสิ่งที่บอกระยะเวลาว่า เราเกิดมานานเท่าไหร่ เราแต่งงานมานานแค่ไหน เรามีลูกมานานเพียงใด แต่เป็นตัวเราที่เอาความรู้สึกต่างๆนาๆ ไปใส่ในวันนั้นๆ เอง แล้วยังไปกะเกณฑ์อีกว่า ในวันนั้น เราจะต้องมีความสุข หรือในวันนั้นเราจะต้องทุกข์เพราะการระลึกถึงความสูญเสีย ยิ่งไปกว่านั้นถ้าหากถึงวันสำคัญแล้วสิ่งต่างๆไม่เป็นไปตามที่คิด ก็ทุกข์อีก มานั่งเสียอกเสียใจ น้อยอกน้อยใจ หรือไม่ก็ทำให้คนอื่นทุกข์ด้วยการพยายามบังคับให้คนอื่นมีความรู้สึกกับวันนั้นๆเหมือนเราไปอีก
ไม่น่าเชื่อว่าเราจะไร้สาระได้ขนาดนี้ วันเกิดลูกทีไรก็มานั่งน้อยใจว่าทำไมลูกไม่นึกถึงเราเพราะเป็นวันที่เราต้องเจ็บตัวมากที่สุดในชีวิตเพื่อเค้า ทั้งๆที่ตลอดชีวิตลูก วันเกิดคือวันที่มีของขวัญ มีงานเลี้ยงมีเป่าเค็กวันเกิด ที่สำคัญเค้ายังไม่ได้มีประสบการณ์การมีลูกเหมือนที่เรามี แล้วเราจะไปหวังว่าเค้าจะต้องนึกถึงเราเพราะเราต้องผ่านความเจ็บปวดที่สุดในชีวิตในวันเกิดของเค้าได้อย่างไร มีแต่เราที่คิดไปเอง ทำร้ายตัวเองเพราะเอาความรู้สึกตัวเองไปใส่ไว้ในวันคล้ายวันเกิดของลูก
ต่อไปจะมองวันสำคัญอย่างที่มันควรจะเป็นโดยจะพยายามไม่เอาความรู้สึกของตัวเองไปใส่ในวันต่างๆเหล่านั้น ให้วันเวลาทำหน้าที่ของมันในการบอกเวลา แต่ไม่ให้มามีผลในการกำหนดให้เรามีความสุขหรือมีความทุกข์เพียงเพราะวันนั้นเวียนมาบรรจบครบรอบ และจะย้ำเตือนตัวเองว่า ความรู้สึกของแต่ละคนที่มีต่อวันสำคัญต่างๆนั้น ไม่เหมือนกันเพราะแต่ละคนก็มีความรู้สึกและประสบการณ์ต่างกัน ทำให้วันวันเดียวกันมีผลต่อคนแต่ละคนต่างกัน